ภาพรวม และ เทรนประกันปี 2567

ภาพรวม และ เทรนประกันปี 2567

จากการที่ธุรกิจประกันได้ผ่านความท้าทายต่างๆ โดยเฉพาะวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจประกันทั้งระบบปรับตัวไปจากเดิมค่อนข้างมาก ในส่วนผลิตภัณฑ์ประกัน แต่ละบริษัทฯ พยายามออกแบบประกันหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะเรื่องความสามารถในการชำระเบี้ยประกัน ตั้งแต่ไซส์เล็กไปจนถึงไซส์ใหญ่ อย่างเช่น มีการแบ่งชำระเบี้ยประกันเป็นรายเดือน เพื่อให้คนได้เข้าถึงประกันได้ง่ายขึ้น และ เราทราบกันดีว่า ปัจจุบัน เทรนสุขภาพกำลังมาแรง คนจำนวนมากตระหนักเรื่องการมีสุขภาพที่ดีกันมากขึ้น การดูแลรักษาสุขภาพให้ดีมีอายุยืนยาว มีปัจจัยหลักๆ คือ การป้องกัน และการรักษาพยาบาล

การป้องกัน คนหันมาออกกำลังกายกันมากขั้น เลือกทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ หรือแม้กระทั้งใช้อาหารเสริม แต่ ถึงจะป้องกันดีมากขนาดไหน ก็ยังมีโอกาสที่จะเจ็บป่วยได้อยู่ดี ซึ่ง ณปัจจุบัน โรคร้ายแรงหลายๆโรค สามารถรักษาให้หายได้ ก็ต้องยอมรับว่า ค่ารักษาพยาบาลก็เพิ่มสูงขึ้นค่อนข้างมาก เช่นกัน ก็เลยเป็นเทรนให้คนเนี่ย ต้องซื้อประกันสุขภาพเพิ่มขึ้น และการดูแลในเรื่องสุขภาพทำให้คนมีอายุยีนยาวนานมากขึ้น สิ่งที่ตามมา ก็คือการมีชีวิตอยู่

ปัจจัยที่ทำให้ชีวิตอยู่ ได้อย่างดี ก็คือการวางแผนการเงิน และเก็บออม

การเก็บออมในรูปแบบประกันชีวิต ถ้าเทียบผลตอบแทน อาจจะดีน้อยกว่า การนำเงินไปลงทุน แต่ก็มีความปลอดภัยสูงกว่าการลงทุน ซึ่งเราทราบกันอยู่แล้วว่าการลงทุนมีความเสี่ยง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการลงทุนไม่ดี การลงทุนเป็นสิ่งที่ดีและควรลงทุนเพราะ ให้ผลตอบแทนสูง เรายังคงต้องลงทุน แต่เราก็ควรต้องมีการวางแผนในการเก็บออมเงินที่ปลอดภัย

รวมถึงการวางแผนภาษี ซึ่งรัฐบาล ก็ยังสนับสนุน เราลองนึกดูการลดหย่อนภาษี ด้วยวิธีการอื่น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้า หรืออะไรก็แล้วแต่ เป็นการนำเงินออกจากกระเป๋าเรา แต่การลดหย่อนภาษี โดยการซื้อประกันชีวิต หรือแบบบำนาญ ซึ่งเป็นการย้ายเงินจากกระเป๋าเรา ไปเก็บออมไว้ ในรูปแบบของการจ่ายให้ตัวเราเป็นงวดๆ ยามที่เราเกษียน แสดงว่าการันตี ณ วันที่เราเกษียนมีชีวิตอยู่ยืนยาว เราก็จะมีเงินใช้ไปได้ยาวๆอันนี้ก็จะเป็นเทรนของคนรุ่นใหม่ ซึ่งในวันนี้เอาจริงๆแล้ว เขาจะมองถึงการที่มีชีวิตอยู่ แบบ สมาร์ทไลฟ์ ก็คือ มีชีวิตอยู่ อย่างสามารถมีความสุขได้

ในปีนี้ ภาคการประกัน มีปัจจัยบวกสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ นโยบาย ส่งเสริมจากทางภาครัฐ ผ่านมาตรการส่งเสริมทางด้านภาษี และ มาตรการส่งเสริมสิ่งแวดล้อม โดยกระตุ้นให้เพิ่มการใช้รถไฟฟ้า เพื่อบรรเทาการใช้เชื้อเพลิงในการเผาไหม้ ซึ่งมักก่อให้เกิดปัญหามลพิษอย่าง PM 2.5

ซึ่งนโยบายต่างๆนี้ ถือเป็นเครื่องมือผลักดันให้ธุรกิจประกันเป็นที่รู้จักและสนใจจากประชาชนมากขึ้น ทำให้คาดการณ์ว่า ภาคธุรกิจประกัน มีปัจจัยความเติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้

สรุป เทรนประกันชีวิตในปีนี้ ยังคงมุ่งไปสู่ความคุ้มครองสุขภาพ โรคร้ายแรง และ การวางแผนทางการเงินระยะยาวเพื่อการเกษียน ผ่านการประกันชีวิต เช่น แบบสะสมทรัพย์ และการประกันชีวิตแบบบำนาญ และในภาคของประกันภัย เทรนการซื้อประกันรถไฟฟ้า มีแนวโน้มการซื้อเพิ่มขึ้น

กำลังซื้อ

กำลังซื้อ หนี้ครัวเรือน สงคราม เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการคาดการณ์และความเชื่อมั่นของนักลงทุน ปัญหาราคาสินค้า หรือค่าครองชีพแพง ที่ส่งผลต่อการดำรงชีพต่อคนไทยทั้งสิ้น ดังนั้น หากมีการวางแผนและบริหารความเสี่ยงที่ดี จะสามารถบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นจากปัจจัยข้างต้นได้

ที่หลายคนมองว่าเศรษฐกิจฝืด คนไม่ค่อยเอาเงินออกมาซื้อของ เราจะได้ยินแบบนั้นกันตลอดเลย แต่จริงๆแล้ว หากเราดูปัจจัยอื่นๆประกอบด้วย และฟังอีกมุมหนึ่งของนักวิเคราะห์หลายๆท่าน ก็ได้บอกว่าเศรษฐกิจไม่ได้ฝืดขนาดนั้น เพียงแต่ว่าคน เลือกและตัดสินใจที่จะซื้อ วันนี้เรารู้สึกไหม ของบางอย่างยังขายได้ และขายได้ราคาแพงด้วยซ้ำ

ณ ปัจจุบัน คนมีความคิดมากขึ้น ในการซื้อของในราคาเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นฟังชั่นการใช้ประโยชน์ต่างๆ  เช่น รถยนต์มีให้เลือกซื้อทุกราคา ในทุกระดับ เพราะคนเริ่มเข้าใจแล้วว่า วันนี้รถไม่ได้เป็นเครื่องแสดงฐานะกันแล้ว เราจะพูดกันถึงการใช้งานกันมากกว่า

วันนี้บางครั้งคนไม่เน้นซื้อของถูก แต่เน้นการซื้อของที่ใช้ได้มีคุณภาพและคุ้มค่า อย่าง เช่น ของ ราคา 20 บาทซื้อมาใช้ได้ครั้งเดียวไม่ทนต้องทิ้ง กับ ของราคา 100 บาท แต่ใช้ทนทานคุ้มค่า คนก็ตัดสินใจซื้อของ 100 บาท และเมื่อคนซื้อสินค้า 100บาท ที่มีความทนทาน จึงทำให้รอบการซื้อมันลดลง เราก็เลยรู้สึกว่าสินค้ามันไม่เคลื่อนที่ 

ดังนั้นวันนี้ เราต้องดูเทรนของการซื้อ คนลดการบริโภค หรือซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยบางรายการลง และ เลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นมากขึ้น เลือกสินค้าที่มีคุณภาพ ที่มีแวลู่ในตัวเอง เปรียบเทียบความคุ้มค่ากับจำนวนเงินที่จ่ายกันมากขึ้น ดังนั้น ปัจจัยของการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ประกัน ก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่ได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจบ้าง แต่ไม่มากนัก เพราะถือเป็นสินค้าพื้นฐานที่จำเป็นต่อการบริหารความเสี่ยง และวางแผนความมั่นคงในระยะยาวของประชาชน

แนะนำประกัน

ก่อนจะเลือกซื้อประกันทำไม? จึงควรติดต่อตัวแทนและนายหน้าที่เราไว้ใจ เพราะก็เปรียบสเหมือนกับการที่เราตัดเสื้อผ้า ระหว่างการซื้อเสื้อแบบทั่วๆไป กับสั่งตัด การสั่งตัดเสื้อผ้าจะออกแบบได้เฉพาะตัวเรามากกว่า ตรงความต้องการของเรามากกว่า ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในการจะซื้อประกันก็คือ การได้สนทนา กับตัวแทนและนายหน้า ดีๆสักหนึ่งคน เพื่อให้เขาวางแผนให้กับเรา  เราบอกความต้องการของเราไป และเขาก็จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของเราได้ เพราะจริงๆแล้ว ณ ปัจจุบันเทรนสุขภาพ ที่กล่าวไว้ตอนต้น แม้กระทั่ง เราจะทำการป้องกันเรายังต้องเลือกวิธีการออกกำลังกาย และปรึกษาเทรนเนอร์เลย แล้วในการเลือกแบบประกัน ซึ่งเป็นการคุ้มครองความเสี่ยงภัยและการสร้างความมั่นคงให้เราในระยะยาว ทำไมเราจะไม่เลือกตัวแทนและนายหน้ามาช่วยเราในการออกแบบ

คนเป็นที่มาของทุกสิ่ง ทุกอย่างเกิดขึ้นจากตัวเรา แต่เรามักจะห่วงสิ่งเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นบ้าน เป็นรถ เป็นทรัพย์สินใดๆก็แล้วแต่ เราก็มักจะซื้อประกันให้ของเหล่านั้น แล้วตัวเราเองล่ะ ผู้ซื้อเป็นผู้หาสิ่งของเหล่านั้นมา เรามีประกันดูแลตัวเอง แล้วหรือยัง?

ถ้าจะให้แนะนำ ก็เริ่มจาก ประกันขั้นพื้นฐาน คือ พรบ.เพราะเป็นสิ่งที่กฏหมายกำหนด เพื่อบรรเทาความเสี่ยงภัยให้ผู้ประสบภัยจากรถ มีประโยชน์จริงๆ ถึงตัวตนคนใช้รถ อย่างเช่น พรบ.มอเตอร์ไซ จ่ายเบี้ยวันหนึ่งไม่ถึง 1 บาท ปีละ 324 บาท ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 5 แสนบาท ช่วยบรรเทาความเสียหายได้เยอะค่ะ และที่ควรมีอันดับต่อมา คือ ประกันคุ้มครองชีวิต คุ้มครองสุขภาพ โรคร้ายแรง รวมถึงประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประกันบำนาญจึงเป็นส่วนที่เราควรคำนึงถึงตามลำดับค่ะ

มีคำกล่าวที่ว่า ความเสี่ยงควบคุมได้ อยากให้คนไทยมีการวางแผนการเสี่ยงภัยที่ดี เพื่อความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินของเราค่ะ

สกู๊ปพิเศษ สัมภาษณ์ครูออน รายการนาทีลงทุน สำนักข่าวไทย ช่อง9 อสมท .
ออกอากาศในวันที่ 16 กุมพาพันธ์ 2567